ค่าการนำความร้อน (Thermal conductivity) ความสำคัญที่มีผลต่อการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่หลายคนยังไม่เข้าใจ
ขออนุญาตพาทุกคนที่อ่านกลับมายังจุดเริ่มต้น เพื่อขยายความและเข้าใจเพิ่มขึ้นในเรื่องของค่าการนำความร้อนของเหล่า Thermal Paste และ Thermal Pad ที่แสดงค่าเป็น W/mK (วัตต์/เมตร-เคลวิน) ซึ่งหลายคนยังไม่เข้าใจ เพื่อไม่ให้เนื้อหายาวไปจะเล่าให้ฟังแบบสั้นๆในตอนที่ 1 นี้ และจะขยายความเข้าใจเพิ่มเติมให้ในตอนต่อๆไป มาครับ เรามาเริ่มกันเลย
ถ้าให้สรุปใน 3 บรรทัด ก็คือ ค่าการนำความร้อน (Thermal conductivity) ของวัตถุเป็นตัวกำหนดคุณลักษณะของความสามารถในการถ่ายเทพลังงานความร้อน ที่บอกว่าความร้อนจะผ่านวัตถุได้ง่ายเพียงใด วัตถุที่มีค่าการนำความร้อนสูงจะถ่ายเทพลังงานความร้อนได้เร็วกว่าวัตถุที่มีค่าการนำความร้อนต่ำ ค่าการนำความร้อนจะบอกให้เราทราบถึงอัตราที่พลังงานความร้อนส่งผ่านความยาวของวัตถุ
W/mK ตัวย่อเหล่านี้เราจึงเห็นความสัมพันธ์กันของ พลังงานความร้อนต่อระยะทางและอุณหภูมิ แต่ความจริงแล้วที่มาของค่านี้ค่อนข้างยาวจึงขอละไว้เพื่อให้เนื้อหาอ่านง่ายกับทุกคน
แล้ว Thermal Paste และ Thermal Pad มันมาเกี่ยวข้องกันอย่างไร
ทั้ง Thermal Paste และ Thermal Pad จะใช้เป็นตัวประสานเพื่อนำความร้อนจากแหล่งสร้างความร้อนไปยังตัวระบายความร้อน เราจึงเห็นการใช้ Thermal paste เป็นตัวประสานระหว่าง CPU และ Heatsink เพื่อให้ความร้อนถ่ายเทไปยังตัวระบายความร้อนเพื่อไม่ให้เครื่องคอมพิวเตอร์เอ๋อจากความร้อนสะสมมากเกินไป หรือเราจะเห็นในการ์ดจอด้วยเช่นกันตรงตำแหน่ง GPU ส่วน Thermal Pad ก็จะใช้ในจุดที่มีความหนามากขึ้นแต่ความร้อนไม่สูงนักเช่น IC หรือ Memory Module
ดังนั้นเราจึงเห็นทั้ง Thermal Paste และ Thermal Pad ประสิทธิภาพสูงถูกผลิตออกมาใช้งานอย่างหลากหลายเพื่อแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้งาน ดังนั้นค่าการนำความร้อน (W/mK) จึงมีระบุไว้เพื่อให้เราเลือกใช้ และแน่นอนว่าค่ายิ่งมากยิ่งช่วยถ่ายเทความร้อนได้เยอะและเช่นกันก็เป็นต้นทุนของผู้ผลิตที่ใส่ลงไปในสินค้าด้วย
ก่อนจบกันในตอนที่ 1 ขอสรุปว่า แม้ว่าเราจะใช้ตัวที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดก็อย่าลืมว่าปลายทางแล้วถ้าตัวระบายความร้อนไม่ได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือคุณภาพไม่ดี มันก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย เพราะมันต้องทำงานกันเป็นทีมครับ